---

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

โรคอ้วน-หยุดอ้วน!!




ในสภาวะของสังคมปัจจุบัน ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกันมาก โรคหนึ่งเป็นภาวะจากความสมบูรณ์ที่เกินไป เดิมเคยเรียกว่า โรคคนรวย แต่ยุคนี้ไม่จำเป็นแล้ว โรคความอ้วน จากความเชื่อเดิมที่คิดกันว่าคนเราอยู่ดีกินดีมีความสุข สุขภาพดี ร่างกายจะต้องอ้วนท้วนสมบูรณ์ แต่เมื่อองค์ความรู้ต่อเติมงอกงามขึ้น จนรู้ว่า ความสมบูรณ์นั้นกลับกลายเป็นแหล่งรวมโรคนานาชนิดที่ร้ายแรง

โรคอ้วนอย่างเดียวก็กระชากความมั่นใจของคนนั้นไปแทบหมดสิ้น อีกทั้งต้องเผชิญกับโรคร้ายที่จ่อคิวตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เหนื่อยง่าย อุ้ยอ้าย เครียดง่าย เหล่านี้เป็นสิ่งที่เมื่อคุณอ้วนจะต้องพบพานไม่ช้าก็เร็ว
เมื่อความรู้ปรากฏ คนก็ กลัว ความอ้วน แต่กลัวเป็นแฟชั่น ไม่ได้กลัวที่จะรักษาอย่างตั้งใจจริง ปัจจุบัน จึงได้เกิดสินค้าลด รักษา ความอ้วนกันอย่างมากมาย

ด้วยการรักษาหลากหลายวิธี ทั้งยาลดความอ้วน ที่กินมากจนประสาทหลอนกันไป อาหารเสริม อาหารคุมน้ำหนัก อาหารละลายไขมัน ธัญพืช สมุนไพรลดไขมัน ครีมนวดลดไขมัน จนกระทั่งก้าวไปถึงการแพทย์ ทั้งเครื่องสลายไขมัน ดูดไขมัน ตัดไขมัน หรือ กระทั่งสินค้าที่โฆษณาเกินจริง เช่น แหวนลดน้ำหนัก เข็มขัดลดน้ำหนัก ล้วนแต่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เพื่อหวังผลทางการตลาด
แต่การรักษาที่ได้ผลจริงแท้แน่นอนก็คือ กินพอดี ออกกำลังกายให้พอ จิตใจต้องเข้มแข็งในการต่อสู้ ไม่ต้องไปหายาเทวดาสั่งที่ไหนกินก็หายได้ ง่าย ถูก แต่ไม่ชอบ เสียเงินสบายใจกว่ากันเยอะเลย
โรคอ้วน คือ อะไร ?
ในที่นี้ หมายถึง ความอ้วนที่มากเกินไป มีน้ำหนักตัวมากกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ใช่อ้วนกำลังดี อ้วนพองามหรือกำลังสวย คำว่า อ้วน ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง มีเนื้อและไขมันมาก โต อวบ ซึ่งเป็นความหมายที่ไม่น่าปรารถนาของคนทั่วๆ ไป
โรคที่พบบ่อยในคนอ้วน

จะเห็นว่าสาเหตุแห่งความอ้วนนั้นไม่มีอะไรมาก เพราะไขมันเข้าไปอยู่ในตัวเกินความจำเป็น จากที่แก้ไขยาก อ้วนเพราะเจ็บป่วยบางโรค และยาบางชนิด แต่คนอ้วนจำนวนมากในโลก ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย วัยรุ่นหรือสูงวัย ต่างอ้วนเพราะตัวเองไม่คุมจิตใจ ตามใจปาก อยากกินดะ ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ออกกำลังกาย นั่งๆ นอนๆ เที่ยว เล่น กิน แล้วก็เป็นบังอรเอาแต่นอน สุดท้ายโรคอ้วนก็พาเพื่อนตามมา ทั้ง เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ล้วนแต่เป็นเพื่อนร่วมโลก (โรค) ที่ร้ายๆ ทั้งนั้น พร้อมจะคร่าชีวิตได้ทุกเมื่อ หรือถ้าไม่ตาย เมื่อเป็นโรคเหล่านี้ก็ต้องดูแลรักษากันไปตลอดชีวิต

วันนี้ไม่สาย ที่จะรักตัวเอง



อ้างอิง



วิธีทำรองเท้าถุงพลาสติก ป้องกันโรคฉี่หนู

โรคฉี่หนู


วิธีทำรองเท้าถุงพลาสติก ป้องกันโรคฉี่หนู (กรมควบคุมโรค)

          โรคฉี่หนู เป็นโรคที่มีหนูเป็นตัวแพร่โรคที่สำคัญ เชื้อโรคที่ออกมากับปัสสาวะหนูจะปนเปื้อนอยู่ในน้ำท่วมขัง หรือบนพื้นดินที่ชื้นแฉะได้นาน ประชาชนที่เดินลุยน้ำ ย่ำโคลนอาจติดเชื้อโรคนี้ได้ จึงควรป้องกันโรคนี้โดยการสวมรองเท้าบูทยาง หรือสวมรองเท้าถุงพลาสติก



วิธีทำ













อ้างอิง

6 โรคที่ควรระวังช่วงน้ำท่วม

  
 แม้ว่าฤดูหนาวกำลังจะย่างเข้ามาแล้ว แต่ดูท่าว่าก่อนฤดูฝนจะผ่านไป มันยังส่งท้ายฤดูฝนด้วยภาวะน้ำท่วมที่หลายพื้นที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย และการคมนาคมไปตาม ๆ กัน

          แต่นอกจากเรื่องที่อยู่อาศัยและการคมนาคมที่ลำบากแล้ว สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับภาวะน้ำท่วม เห็นจะเป็นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำ ซึ่งมันส่งผลต่อสุขภาพของคนเราได้อย่างมากมาย กระปุกดอทคอมวันนี้จึงขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับโรคที่มากับน้ำท่วมมาฝากกัน เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้ระมัดระวัง และปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม 6 โรค ดังนี้
          1. โรคฉี่หนู ฉี่หนูเป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์ มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira sp.) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ ตั้งแต่หนู วัว ควาย ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเลยทีเดียว โดยคนจะสามารถรับเชื้อฉี่หนูนี้เข้าไปทางบาดแผล หรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงเยื่อเมือกอย่างตาและปากอีกด้วย

           อาการของโรคฉี่หนู มี 2 แบบ คือแบบไม่รุนแรงจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากผู้ป่วยรู้ตัวและรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ กับอาการรุนแรงที่จะทำให้ตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ และเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในสมองจะทำให้เกิดอาการเพ้อ ไม่รู้สึกตัว และยิ่งไปกว่านั้นหากติดเชื้อทั่วร่างกายจะทำให้เลือดออกในร่างกายจนเสียชีวิต

           การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู หลีกเลี่ยงการเดินอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง การเล่นน้ำ โดยเฉพาะในเด็กที่มักจะสนุกสนานไปกับการย่ำน้ำหรือเล่นน้ำในช่วงน้ำท่วม แต่หากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณน้ำท่วมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบเดิน อย่าแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยเพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และควรใส่รองเท้าบูททุกครั้งเมื่อเดินลุยน้ำ เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้า และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลที่เท้าหรือน่อง ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ที่หนีน้ำกัดได้ ส่วนในผู้ที่เริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ให้รีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่ารอให้อาการหนักเพราะอาจจะรักษาไม่หายและเสียชีวิตก็เป็นได้

          2. อหิวาตกโรค เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio Cholerae ที่แพร่กระจายอยู่ในน้ำดื่มและอาหาร โดยมีแมลงวันเป็นพาหะนำโรค และแน่นอนว่าโรคนี้แพร่ระบาดได้โดยการกินและดื่มอาหารที่มีแมลงวันตอมและมีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ รวมทั้งอาหารสุข ๆ ดิบ ๆ ด้วย

           อาการของโรค ผู้ป่วยจะอุจจาระเหลวเป็นน้ำวันละหลายครั้ง แต่ไม่เกินวันละ 1 ลิตร อาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนได้ ซึ่งถือว่าเป็นอาการในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้ภายใน 1-5 วัน แต่หากติดเชื้อขั้นรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเดิน อุจจาระมากและมีลักษณะอุจจาระเป็นน้ำซาวข้าว มีกลิ่นเหม็นคาว และอุจจาระได้โดยไม่ปวดท้องและไม่รู้สึกตัว สามารถหายได้ภายใน 2-6 วันหากได้รับเกลือแร่และน้ำชดเชยน้ำที่เสียไป แต่หากได้รับไม่พอดีกับที่เสียไปแล้ว ผู้ป่วยก็จะมีอาการหมดแรง หน้ามืด อาจช็อคถึงเสียชีวิตได้

           การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอหิวาตกโรค ควรรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ และดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำต้มสุก รวมถึงรักษาสุขภาพอนามัยด้วยการล้างมือ และภาชนะใส่อาหารให้สะอาดทุกครั้ง แต่ไม่ควรนำน้ำท่วมมาล้าง หรือทำความสะอาดภาชนะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นอหิวาตกโรค หรือหากติดเชื้ออหิวาแล้วก็ควรพบแพทย์และรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

          3. ไข้ไทฟอยด์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi  ที่อยู่ในน้ำและอาหารเช่นเดียวกับอหิวาตกโรค แพร่ระบาดโดยการดื่มน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค

          อาการของโรค เมื่อได้รับเชื้อนี้เข้าไปจะไม่แสดงอาการทันที แต่จะแสดงอาการหลังจากรับเชื้อประมาณ 1 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว เบื่ออาหาร มีไข้สูงมาก ท้องร่วง บางรายมีผื่นขึ้นตามตัว แน่นท้อง สามารถหายได้เองภายใน 1 เดือน แต่ผู้ป่วยควรจะพบแพทย์หลังจากมีอาการแล้ว เพราะอาจจะเสียชีวิตจากภาวะปอดบวมได้

         การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันไข้ไทฟอยด์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเชื้อโรคทุกชนิด และนั่นหมายถึงว่า ให้ทานอาหารที่สะอาด อยู่ในภาชนะที่สะอาด รวมถึงล้างมือให้สะอาดก่อนทานทุกครั้ง และควรจะหลีกเลี่ยงอาหารจากร้านค้าข้างถนนที่อยู่ในบริเวณที่ไม่สะอาด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรืออีกทางหนึ่งคือฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์

          4. โรคตับอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบของเซลล์ตับ ทำให้ตับทำงานผิดปกติ จนทำให้มีอาการเจ็บป่วยได้ และไวรัสตับอักเสบที่มาจากภาวะน้ำท่วม ก็คือไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ที่มีสาเหตุมาจากการทานอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ทำให้สุก

           อาการของโรค เมื่อแสดงอาการแล้วผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปวดตัวแถวชายโครงขวา และมีปัสสาวะเป็นสีชาแก่ เริ่มมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองในสัปดาห์แรก และจะหายเป็นปกติภายใน 2-4 สัปดาห์

           การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคตับอักเสบ คือ ทานอาหารที่สุกและสะอาด ไม่ใช้แก้วน้ำและช้อนร่วมกับผู้อื่น

          5. ตาแดง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีบ ไวรัส Chlamydia trachomatis และ Bacterial Conjunctivitis อาจมาจากภูมิแพ้ หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา มักเกิดจากการเอามือที่สกปรกไปขยี้หรือสัมผัสดวงตา รวมถึงใช้ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าเช็ดหน้าไปสัมผัสกับดวงตา

           อาการของโรค ผู้ป่วยจะมีอาการคันตาจนหลายรายต้องขยี้บ่อย หรือบางคนแค่เคืองตาเท่านั้น และมีขี้ตามากกว่าปกติ มีลักษณะเป็นหนองและมีสะเก็ดปิดตาตอนเช้า และมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ตามัว หรืออาจปวดตา

           การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคตาแดง ควรล้างมือให้สะอาด ไม่ใช่เครื่องสำอาง ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับคนอื่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาในทุกกรณี และอย่าใช้ยาหยอดตาร่วมกับคนอื่น หากเริ่มเคืองตาหรือคันตา ให้รีบปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์

           6. ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในเด็ก มักระบาดในฤดูฝน ที่มีการแพร่พันธุ์ของยุงลาย

           อาการของโรค ผู้ป่วยจะมีไข้สูงประมาณ 2-7 วัน เบื่ออาหาร อาเจียนออกมามีสีน้ำตาลปนอยู่ ปวดกล้ามเนื้อ ตัวแดง หรืออาจมีผื่นหรือจุดเลือดตามผิวหนัง หากเข้าสู่ภาวะวิกฤตผู้ป่วยจะไข้ลด มือเท้าเย็น ตัวเย็น ชีพจรเต้นเร็ว อาเจียนมาก ปัสสาวะน้อย ทำให้เข้าสู่ภาวะช็อคได้ หากมีอาการควรรีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วน

           การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคตาแดง พยายามอย่าให้ยุงกัดโดยทากันยุงเป็นวิธีที่ดีที่สุด และอย่าปล่อยให้ภาชนะต่าง ๆ ภายในบ้านมีน้ำขังนานเพราะจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หรือหากเป็นไข้เลือดออกแล้วไม่ควรให้ยุงกัดเพราะจะทำให้แพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิดได้ผ่านยุง

          และนั่นก็คือ 6 โรคที่ระบาดเยอะในช่วงน้ำท่วมและฤดูฝน ดังนั้น ทุก ๆ คนที่ประสบภาวะน้ำท่วม รวมถึงคนทั่วไปก็ควรที่จะระวังการระบาดของโรคเหล่านี้ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร การป้องกันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการรักษาเมื่อเป็นโรคแล้วเสมอ เพราะฉะนั้น อย่าลืมใส่ใจสุขภาพอนามัยและพิถีพิถันกับการใช้ชีวิตในช่วงน้ำท่วมและช่วงฤดูฝนมากขึ้นกันสักนิดนะคะ




อ้างอิง